วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2557

ชักจูง 7 แท็บเล็ตรุ่นใหม่ Mobile Expo

แนะนำ 7 แท็บเล็ตรุ่นใหม่ Mobile Expo
อีกไม่กี่วันแล้วกับงาน Thailand Mobile Expo 2014 งานมหกรรมโทรศัพท์มือถือพร้อมด้วยแท็บเล็ตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยในรอบนี้นั้นมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 2-5 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งก่อนที่งานจะเริ่มต้นขึ้นนั้นในเร็ว
วันนี้เรามาทำความรู้จักกับแท็บเล็ตแบบใหม่หลากหลายแบรนด์ที่จักมีวางจำหน่ายที่งาน Thailand Mobile Expo 2014 กันดีกว่าครับ ส่วนใครที่กำลังรอโปรโมชั่นของงานนั้นอดใจรอกันอีกนิดครับ
Samsung
Galaxy Tab S 8.4
แท็บเล็ตขนาด Compact สเปคแรงให้คุณเเลื่องลือกใช้งานอีกด้วย ‘Galaxy Tab S 8.4' ใช้หน้าจอ Super-AMOLED ขนาด 8.4 นิ้ว ความละเอียดสูงสุดมากถึง 2560×1600 พิคเซล ทำให้การแสดงผลทำได้สวยสด ดีกว่าแท็บเล็ตหลายรุ่นที่ข้ามมา เร็วแรงด้วยชิพประมวลผล Octa-Core รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน แต่อินเตอร์เฟสจักต่างกันบางส่วน บอดี้บางแทบ 6.6 มิลลิเมตร น้ำหนักเบาหวิว 298 กรัม พกพาคล้ายสมุดเล่มนึงเลยล่ะ นอกจากนี้ยังรองรับ 4G LTE ติดกล้อง 8MP กับรอบรู้โทรออกได้ตามปกติ
Galaxy Tab S 10.5
แท็บเล็ตสเป็คแรงในซีรีส์ Galaxy Tab S ที่ตีคู่มาพร้อมกับ Galaxy Tab S 8.4 มาพร้อมหน้าจอ Super-AMOLED ขนาด 10.5 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูงสุดถึง 2560×1600 พิกเซล ชัดสะใจกับความละเอี่ยดสูงพร้อมทั้งสีสันที่สวยสดโดดเด่นกว่าแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆขนาดเดียวกันในท้องตลาด
Asus
Fonepad 7 (FE375CG)
แม้คุณต้องการแท็บเล็ต Android ที่สเปคสูงกว่า Fonepad 7 ตัวประหยัด ล่าสุด Asus ได้ส่ง Fonepad 7 FE375CG ลงตลาด อัพเกรดสเปคชิพประมวลผล 64-Bit ตัวแรก เร็วแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปรับดีไซน์ใหม่ โค้งมน เรียบง่ายกว่าเดิม ด้านหน้ามีลำโพงสเตอริโอคู่ บอดี้เล็กกว่า FE170CG เล็กน้อยแต่ยาวกว่า รับน Android 4.4.2 พร้อม Zen UI ที่หลายๆคนตราตรึงจากซีรีส์ Zenfone ติดกล้อง PixelMaster 5MP ถ่ายภาพกลางคืนค่อนข้างดี รองรับ 3G ทุกเครือข่าย และใช้งาน 2 ซิมการ์ด โทรออกแนบหูเหมือนมือถือเลยครับ ส่วนอื่นๆ ก็ไม่แตกต่างจาก Fonepad 7 รุ่นก่อนหน้ามาก พร้อมทั้งที่สำคัญขอบจอยังบางเฉียบแทบ 5.7 มิลลิเมตร
Lenovo
Tab A7-50
แท็บเล็ต Android หน้าจอพอดีมือ 7 นิ้วจาก Lenovo โดดเด่นด้วยค่าที่ไม่แพง อาจจะใส่ซิมการ์ดใช้งาน 3G เหรอโทรออกได้แบบเดียวกันกับที่สมาร์ทโฟนทำได้ นอกจากนี้ Lenovo Tab A7-50 ยังมาพร้อมกับชิพประมวลผล Quad-Core ให้ความจุของตัวเครื่องมาที่ 16GB มีแรม 1GB พร้อมระบบปฏิบัติการ Android Jelly Bean สมรรถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ดูหนังไม่ก็เล่นเกมก็พอไหว นอกจากนี้ยังรองรับ USB-OTG พร้อมด้วยยังมีทั้งกล้องหน้าที่มีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล กับกล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
Tab A8-50
แท็บเล็ต Android ระดับกลาง หน้าจอ 8.0 นิ้วแฝดคนละฝากับ Tab A7-50 จาก Lenovo อาจจะใส่ซิมใช้งาน 3G โทรออกได้แบบเดียวกับบนสมาร์ทโฟน Lenovo Tab A8-50 ใช้ชิพประมวลผล Quad-Core ให้แรม 1GB รันบน Android 4.2.2 มีกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล ความจุตัวเครื่อง 16GB ลงแอปพลิเคชั่นใช้งานทั่วไปได้ปกติ ดูหนัง HD เล่นเกมกราฟฟิคสูงไหว แบตเตอรี่ค่อนข้างอึดทีเดียว บอดี้ไม่หนามากนัก น้ำหนัก 360 กรัม ทั้งนี้ Lenovo A8-50 มีคู่แข่งตัวสำคัญคือ Fonepad 7 ของ Asus ที่สเปคดีกว่าครับ อยู่ที่ผู้ใช้จะปลงใจ
Lenovo Yoga Tablet 10 HD+
แท็บเล็ตแบบใหม่ล่าสุดในซีรีส์ Yoga ของ Lenovo มาพร้อมกับสีทองหรูหรา พร้อมกับสเป็คที่อัพเกรดให้สูงขึ้น ซีพียู Quad-Core จาก Snapdragon 400 พร้อมระบบประมวลผลกราฟิกทรงพลัง Adreno 305 มีดีไซน์ที่โดดเด่นตามสไตล์ซีรีส์ Yoga ซึ่งจะมาพร้อมแกนหมุนที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจับของเครื่องให้สะดวกต่อการใช้งาน มีแรม 2GB พร้อมกับความจุของตัวเครื่อง 32GB รัน Android 4.3 พร้อมทั้งยังมาพร้อมกับกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล กับกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่สุดอึด 18 ชั่วโมง
Microsoft
Microsoft Surface Pro 3
Microsoft Surface Pro 3 แท็บเล็ต Windows รุ่นล่าสุด ซึ่งรวมความเป็นได้ทั้งแท็บเล็ตพร้อมด้วยแล็ปท็อปมาไว้ในเครื่องเดียว พร้อมความคล่องตัวในการใช้งานเพราะบางพ่าง 9 มิลลิเมตร พร้อมทั้งมีน้ำหนักเหมือน 800 กรัม เพราะว่า Microsoft Surface Pro 3 นั้นใช้ซีพียู Intel Core ใน gen ที่ 4 พร้อมหน้าจอคมชัด 12 นิ้ว Full HD พร้อมด้วยมีขาตั้งเครื่องที่ทำได้ปรับระดับการใช้งานได้ถึง 150 องศา มีปากกา Surface Pen ที่ใช้งานควบคู่กันกับแท็บเล็ตเครื่องนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบเสียง Dolby Audio พร้อมด้วยมีแบตเตอรี่ที่สมรรถใช้งานได้ยาวนานถึง 9 ชั่วโมง
นอกจากแท็บเล็ตรุ่นใหม่เหล่านี้แล้วยังมีเหล่าบรรดาแท็บเล็ตรุ่นก่อนๆที่จักมีโปรโมชั่นแรงๆโดนใจใครหลายๆคนเพียบในระดับที่ว่าลดแลกแจกแถมกันกระหน่ำอย่างแน่นอนครับ ซึ่งถ้าใครที่กำลังจะซื้อแท็บเล็ตในช่วงนี้ให้อดใจรอไว้ก่อน อีกไม่นาน
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> http://thaizones-hitech.blogspot.com

วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2557

Facebook จะเก็บเปอร์เซ็นต์ $2.99 ต่อเดือน(ข่าวลือ)

Facebook กำลังจักเก็บค่าบริการ $2.99 ต่อเดือน(ข่าวละบือ)
กำลังเป็นประเด็นที่พูดถึงกันบนโลกออนไลน์ คราวสำนักข่าวต่างประเทศหลายฉบับได้พากันรายงานข่าวเกี่ยวกับนโยบายใหม่ของทาง Facebbook ที่จักเรียกเก็บค่าบริการผู้ใช้งาน Facebook จากทั่วโลก
ก็เพราะว่าว่าเนื้อหาของข่าวละบือนั้นมีใจความว่า ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Facebook คนดังอย่าง Mark Zuckerberg ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของเราคราวนี้ Facebook จักเผชิญกับภาระทางการเงินจนไม่สมรรถกอบกู้อะไรได้ภายในอนาคต 
เนื่องด้วยทาง Facebook นั้นไม่อาจจักทำรายได้จากการโฆษณาได้ตามเป้าหมาย ถ้าไม่เร่งหาทางออกนั้นหมายความว่าในอนาคตเฟสบุ๊คอาจต้องมีการปิดตัวลง เพื่อมูลค่าของค่าบริการนั้นจะอยู่ที่หมาย $2.99 ต่อเดือน กับมีกำหนดริเกริ่นเก็บเงินค่าบริการในวันที 1 พฤศจิกายน 2557 ที่กำลังจะมาถึงนี้
อย่างไรก็ดีตามที่ทางหมู่งานได้ลองไปหาข้อมูลพร้อมด้วยทำการตรวจสอบเรื่องนี้นั้นปรากฏว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความสุทธิแต่อย่างใด เป็นแค่ข่าวเลื่องที่ส่งต่อกัน จนเกิดเป็นความเข้าใจผิด ทั้งนี้ยังพบว่าธุรกิจด้านโฆษณาของ Facebook เองก็มีการเติบโตไปในทางที่ดี 
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> http://thaizones-hitech.blogspot.com

วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557

ตราบใด iPhone6 เครื่องนำเข้าผิดกฎหมายในเมืองไทย!!

เท่าที่ iPhone 6 เครื่องนำเข้าผิดกฎหมายในเมืองไทย!!

เรียกได้ว่าข้าราชการไทยปฏิบัติหน้าที่ได้ตามกระแสเป็นแน่แท้ๆ เพราะว่าว่าล่าสุดนั้นศุลกากรสั่งตรวจเข้มผู้ลักลอบหิ้ว iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus พร้อมทั้งแถลงข่าวว่าได้จับกุมผู้นำเข้าพร้อมยึดเครื่องไอโฟน iPhone 6 (ไอโฟน 6) พร้อมด้วย iPhone 6 Plus ได้มากถึง 300 กว่าเครื่องแล้วเพราะว่าส่วนใหญ่ นำเข้ามาจากสิงคโปร์ ญี่ปุ่น กับฮ่องกงครับ  แต่ยังมีพ่อค้าหัวใสบ้างคนที่เปลี่ยนเส้นทางการนำเข้าประเทศไทยเพราะว่าหันมาใช้มาเลเชียแทนทางชายแดนภาคใต้
iPhone6
iPhone 6 พร้อมกับ iPhone 6 Plus
แต่ถ้าสมมุติใครต้องการนำเข้ามาเผื่อใช้งาน ไม่ก็ถือมาพ่างเครื่องเดี่ยวส่วนนี้ก็รอบรู้ผ่อนผันกันไปเป็นกรณีไปครับ ซึ่งเครื่องที่มีปัญหาส่วนใหญ่คืออุปกรณ์ที่นำเข้ามาเป็นจำนวนมาก(นั้นหมายถึงในเชิงธุรกิจ) ครั้งมีการตรวจเจอจึงถูกยึด เพราะว่าส่วนใหญ่นั้นไม่มีใบอนุญาตจาก กสทช.
ดังนั้นต่างว่าใครต้องประสงค์นำข่าวไอโฟนรุ่นใหม่ในช่วงนี้นั้นต้องมีใบอนุญาตจาก กสทช.เท่านั้นพร้อมทั้งต้องนำมายืนยันกับเจ้าหน้าที่ไม่มีก็ถือว่าเป็นของผิดกฎหมายพร้อมกับจักถูกยึดอุปกรณ์ที่นำเข้ามาทั้งหมดไม่มีข้อยกเว้น
iPhone6
iPhone 6 พร้อมด้วย iPhone 6 Plus
เกี่ยวกับใครที่คิดจะนำเข้าของเข้ามาในเมืองไทยต้องถามก่อนว่า สายแข็งไหม ก็เพราะว่าคุณอาจโดนจับพร้อมทั้งต้องเดินเรื่องจนหมดเนื้อหมดตัวกันเลยก็ได้

ที่มา : http://thaizones-hitech.blogspot.com/2014/09/iphone6.html
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> thaizones-hitech.blogspot.com

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557

5 วิธีรัดเข็มขัดแบตเตอรี่โน้ตบุ๊คแท็บเล็ตต้นร่างหมูๆ

5 วิธีแบตเตอรี่โน้ตบุ๊คแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows 8 แบบง่ายๆ
อุปกรณ์ไอทีช่วงเวลานี้ล้านแต่นิยมการใช้งานแบบไร้สายทั้งนั้น ซึ่งนั่นก็ต้องหมายความว่าบนอุปกรณ์เหล่านั้นต้องติดตั้งแบตเตอรี่อยู่ภายใน ซึ่งตัวโน้ตบุ๊คเองก็จัดว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่นำติดตัวไปใช้งานนอกสถานที่ได้โดยสะดวก แต่มีข้อจำกัดเรื่องแบตเตอรี่ว่าเป็นตัวกำหนดว่าเครื่องนั้นๆ จะทำได้ใช้งานต่อเนื่องได้นานกี่ชั่วโมงซึ่งใครๆ ก็กระหายจักประหยัดแบต โน๊ตบุ๊ค ให้ใช้งานต่อเนื่องให้ได้นานที่สุดแน่นอน เพราะว่าในปัจจุบันระบบปฏิบัติการ Windows 8 ได้เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น ในเรื่องของการประยัดพลังงานแบตเตอรี่ เพราะอุปกรณ์ใช้ Windows 8 ก็จะมีโน้ตบุ๊คอย่างที่เราๆ ใช้กันอยู่ รวมไปถึงแท็บเล็ตแบบใหม่ๆ ที่ใช้เป็นระบบปฏิบัติการ Windows 8 ด้วย
ในบทความนี้ทางเหล่างาน NotebookSPEC จะมานำเสนอ 5 วิธีแบตเตอรี่โน้ตบุ๊คแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows 8 แบบง่ายๆ เพราะว่ามีดังจากนั้นนี้
1. อัพเดท Windows 8 ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ
ในการทำงานของคอมพิวเตอร์หลักๆ แล้วประกอบไปด้วยส่วนของฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ แน่นอนว่าถ้าทั้ง 2 อย่างทำงานร่วมกันด้วยดี ก็จะส่งผลให้ประสิทธิภาพเพราะว่ารวมของเครื่องดีขึ้นด้วย ฉะนั้นในการอัพเดท Windows 8 ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ ก็จะช่วยให้ซอฟต์แวร์ของเรามีการปรับปรุง แก้ไข Bug ขจัดขอบกพร่องต่างๆ
2. ตั้ง Power Option ให้เหมาะสม
ตั้งค่าที่ส่วนของ Power Option เพราะว่าให้เราคลิกซ้ายที่รูปแบตเตอรี่ตรง Taskbar ฝั่งขวามือแล้วเลือกที่คำสั่ง More power options ที่เป็นคำสั่งล่างสุด จากนั้นจะมีแถบช่องให้เเลื่องลือกเป็น Balance คือใช้พลังงานแบบปกติหรือว่า Power Saver ที่เป็นฟังก์ชั่นประหยัดพลังงานของโน้ตบุ๊ก
3. ความสว่างหน้าจอก็สำคัญ
ตั้งค่าความสว่างหน้าจอให้พอดีต่อการใช้งาน เพราะหน้าจอเป็นส่วนที่สิ้นเปร่ำลืองพลังงานมากที่สุดด้วยว่าโน้ตบุ๊ก ดังนั้นเวลาเราจักนำไปใช้งานนอกสถานที่ล่ะก็ควรปรับตั้งความสว่างหน้าจอให้สว่างกำลังดี ไม่มืดจนเกินไปเพื่อยืดระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น รวมไปถึงโน้ตบุ๊กใครที่มีไฟคีย์บอร์ด Backlit ก็ปิดหรือไม่ก็เปิดให้สว่างพอดีก็ช่วยได้นะครับ
4. ปิดการทำงานบางส่วน
ปิดการทำงานของอุปกรณ์บางชิ้นที่เราไม่ได้ใช้งาน เช่นปริ้นเตอร์เหรออุปกรณ์เชื่อมต่อเสริมบางตัว โดยเราเก่งปิดการทำงานได้ที่ Device Manager เพราะคลิกขวาที่ My Computer แล้วเลือก Properties จักมีคำสั่ง Device Manager อยู่ที่แถบฝั่งซ้ายมือที่คำสั่งแรกสุด (เวลาจักปิดใช้งานอุปกรณ์ไหนก็อ่านดีๆ ก่อนนะ!)
5. เก็บแผ่น ปิด Bluetooth, Wi-Fi ถ้าไม่จำเป็น
งดการใช้แผ่น CD เพื่อประหยัดพลังงาน เพราะการดูหนังฟังเพลงลอดแผ่น CD จักทำให้ตัวเครื่องดึงพลังงานจากแบตเตอรี่มาใช้มากขึ้น ทำให้สิ้นเปลือเลื่องงพลังงานมากกว่าเดิม รวมไปถึงปิดการใช้งาน Bluetooth, Wi-Fi ของเครื่องด้วย ถ้าสมมตไม่ได้ใช้งานขณะนั้น
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> thaizones-hitech.blogspot.com

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

5 วิธีประหยัดแบตเตอรี่โน้ตบุ๊คแท็บเล็ตแบบง่ายๆ

5 วิธีแบตเตอรี่โน้ตบุ๊คแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows 8 แบบง่ายๆ
อุปกรณ์ไอทีกาลสมัยนี้ล้านแต่นิยมการใช้งานแบบไร้สายทั้งนั้น ซึ่งนั่นก็ต้องหมายความว่าบนอุปกรณ์เหล่านั้นต้องติดตั้งแบตเตอรี่อยู่ภายใน ซึ่งตัวโน้ตบุ๊คเองก็จัดว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่นำติดตัวไปใช้งานนอกสถานที่ได้เพราะว่าสะดวก แต่มีข้อจำกัดเรื่องแบตเตอรี่ว่าเป็นตัวกำหนดว่าเครื่องนั้นๆ จักเป็นได้ใช้งานต่อเนื่องได้นานกี่ชั่วโมงซึ่งใครๆ ก็ตะกลามจักประหยัดแบต โน๊ตบุ๊ค ให้ใช้งานต่อเนื่องให้ได้นานที่สุดแน่นอน เพราะว่าในปัจจุบันระบบปฏิบัติการ Windows 8 ได้เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น ในเรื่องของการประยัดพลังงานแบตเตอรี่ เพราะอุปกรณ์ใช้ Windows 8 ก็จักมีโน้ตบุ๊คอย่างที่เราๆ ใช้กันอยู่ รวมไปถึงแท็บเล็ตแบบใหม่ๆ ที่ใช้เป็นระบบปฏิบัติการ Windows 8 ด้วย
ในบทความนี้ทางกรุ๊ปงาน NotebookSPEC จักมานำเสนอ 5 วิธีแบตเตอรี่โน้ตบุ๊คแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows 8 แบบง่ายๆ เพราะมีดังถัดนี้
1. อัพเดท Windows 8 ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ
ในการทำงานของคอมพิวเตอร์หลักๆ แล้วประกอบไปด้วยส่วนของฮาร์ดแวร์พร้อมกับซอฟต์แวร์ แน่นอนว่าถ้าทั้ง 2 อย่างทำงานร่วมกันด้วยดี ก็จักส่งผลให้ประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่องดีขึ้นด้วย ฉะนั้นในการอัพเดท Windows 8 ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ ก็จักช่วยให้ซอฟต์แวร์ของเรามีการปรับปรุง แก้ไข Bug ขจัดขอบกพร่องต่างๆ
2. ตั้ง Power Option ให้เหมาะสม
ตั้งค่าที่ส่วนของ Power Option เพราะให้เราคลิกซ้ายที่รูปแบตเตอรี่ตรง Taskbar ฝั่งขวามือแล้วเลือเลื่องกที่คำสั่ง More power options ที่เป็นคำสั่งล่างสุด จากนั้นจักมีแถบช่องให้เฟุ้งเฟื่องกเป็น Balance คือใช้พลังงานแบบปกติใช่ไหมไม่ก็ Power Saver ที่เป็นฟังก์ชั่นประหยัดพลังงานของโน้ตบุ๊ก
3. ความสว่างหน้าจอก็สำคัญ
ตั้งค่าความสว่างหน้าจอให้พอดีต่อการใช้งาน ก็เพราะว่าว่าหน้าจอเป็นส่วนที่สิ้นเปเลื่องกระฉ่อนงพลังงานมากที่สุดเพราะว่าว่าโน้ตบุ๊ก ดังนั้นเวลาเราจักนำไปใช้งานนอกสถานที่ล่ะก็ควรปรับตั้งความสว่างหน้าจอให้สว่างกำลังดี ไม่มืดจนเกินไปเพื่อยืดระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น รวมไปถึงโน้ตบุ๊กใครที่มีไฟคีย์บอร์ด Backlit ก็ปิดใช่ไหมเปิดให้สว่างพอดีก็ช่วยได้นะครับ
4. ปิดการทำงานบางส่วน
ปิดการทำงานของอุปกรณ์บางชิ้นที่เราไม่ได้ใช้งาน เช่นปริ้นเตอร์เหรอว่าอุปกรณ์เชื่อมต่อเสริมบางตัว เพราะว่าเราเก่งปิดการทำงานได้ที่ Device Manager ก็เพราะว่าว่าคลิกขวาที่ My Computer แล้วเเลื่องก Properties จักมีคำสั่ง Device Manager อยู่ที่แถบฝั่งซ้ายมือที่คำสั่งแรกสุด (เวลาจักปิดใช้งานอุปกรณ์ไหนก็อ่านดีๆ ก่อนนะ!)
5. เก็บแผ่น ปิด Bluetooth, Wi-Fi ถ้าไม่จำเป็น
งดการใช้แผ่น CD เพื่อประหยัดพลังงาน ก็เพราะว่าว่าการดูหนังฟังเพลงตัดผ่านแผ่น CD จักทำให้ตัวเครื่องดึงพลังงานจากแบตเตอรี่มาใช้มากขึ้น ทำให้สิ้นเปเอิกเกริกงพลังงานมากกว่าเดิม รวมไปถึงปิดการใช้งาน Bluetooth, Wi-Fi ของเครื่องด้วย ถ้าสมมติไม่ได้ใช้งานขณะนั้น
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> http://thaizones-hitech.blogspot.com

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557

เตือนภัย ระบาดหนักไอโฟน 6 เกรด A ระวังโดนหลอก

เตือนภัย ไอโฟน 6 เกรด A ระบาดหนัก
กำลังเป็นข่าวที่คนทั่วโลกกำลังติดตามสำหรับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอย่าง iPhone 6 ของบริษัทแอปเปิล ที่มีรายงานว่าจะมีให้เลือกถึง 2 รุ่นด้วยกันนั้นคือ iPhone 6 ขนาดหน้าจอ 4.7 และ 5.5

ซึ่งนอกจากสื่อมวนชลและแฟนคลับของ Apple ยังมีบุคคลอีกกลุ่มที่กำลังมองหาช่องทางการทำเงินจากสินค้าดังกล่าว(ทั้งที่ยังไม่มีการเปิดตัว) และที่แน่ๆ คนกลุ่มนั้นมีพ่อค้าจาก พันทิพย์ และมาบุญครองรวมอยู่ด้วย
โดยในตอนนี้นั้นได้มีการเปิดรับจองเครื่องไอโฟน 6 (เครื่องหิ้วกันแล้ว) ในราคา 36,900 บาท มัดจำ 5,000 บาท และที่เด็ดกว่านั้นยังมีอีกกรณีนั้นคือการนำเอา iPhone 6 เกรด A เข้ามาจำหน่าย สำหรับคุณบัติเบื้องต้นนั้นการดีไซน์ภายนอกนั้นเหมือนกันภาพของม็อคอัพ iPhone ที่หลุดออกมาเพียงแต่ระบบปฏิบัติการนั้นเป็น Android ในราคาเพียง 5 พันกว่าบาท!!
ในส่วนของร้านค้าบนโลกออนไลน์เองก็ไม่น้อยหน้าเพราะมีการเปิดให้สั่งซื้อ iPhone 6 แล้วเช่นร้านค้าบน Instagram ที่มีทั้งภาพของสินค้า และคลิปการรีวิประกอบอย่างชัดเจน!!
เป็นเรื่องปกติของทุกปีก่อนมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ของทาง Apple มักมีกลุ่มบุคคลประเภทนี้ออกมาหาเงินด้วย กลโกง ต่างๆ เพื่อหลอกเอาเงินจากสาวก หรือคนที่อยากได้ อยากเป็นเจ้าของ iPhone 6 ซึ่งมักมีหลายคนโดนหลอกจนสูญเสียเงินทองมากมาย และเป็นกรณีสึกษาทุกปี แต่ก็ยังมีคนที่ตกเป็นเหยื่อของบุคคลเหล่านี้อีกเช่นกัน
สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของ iPhone 6 รุ่นใหม่นั้นทางทีมงาน Sanook! Hitech อยากจะแนะนำให้มีการเปิดตัวจริงๆ อย่างเป็นทางการก่อนครับ จะได้จัดสินใจได้กว่าไแโฟนรุ่นใหม่นั้นถูกใจ และต้องการมันจริงๆ หรือเปล่า
นอกจากนี้นั้นแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ของทาง Sanook! Hitech ได้กระซิบมาแล้วว่าในวันที่ 9 กันยายนนั้นทางค่ายมือถือในเมืองไทยหลายค่าย..ก็มีการจัดงานเปิดตัวไปพร้อมๆ กันกับทางอเมริการเช่นกัน นั้นเป็นสัญญาณที่ดีว่าการวางจำหน่ายของ iPhone 6 ในเมืองไทยคงใช้เวลาไม่นานแน่นอน!!
ซึ้อของไทยจากทางค่ายมือถือที่เป็นตัวแทนเข้ามาจำหน่ายย่อมดีกว่ากว่าแน่นอนไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพที่สามารถเคลมสินค้าได้เมื่อเจอปัญหา หรือการชื้อสินค้าในราคาพิเศษพร้อมของแถมจากแต่ละค่ายที่จัดโปรโมชั่นออกมาแย่งลูกค้ากัน..
ที่มา: @preawwy via flashfly
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> hitech.sanook.com

วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2557

อยากรู้ไหม..? Browser ตัวไหนกินไฟเยอะสุด...!!

มาดูกัน  ที่ใช่ในโน้ตบุ๊คตัวไหนกินไฟเยอะสุด และกินไฟน้อยสุด
เมื่อ 5 ปีที่แล้วทางเว็บ Anandtech ได้ทำการทดสอบการใช้งาน browser กับแบตเตอรี่ไว้ครับ เวลาผ่านไป browser ได้รับการอัพเดทรวมไปถึงระบบปฏิบัติการก็มีการเปลี่ยนเวอร์ชันใหม่ด้วย ดังนั้นทาง Anandtech จึงได้ทำการทดสอบการใช้งาน browser กับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นมาอีกครั้งครับ
โดยในครั้งนี้ browser ที่ทาง Anandtech ทำการทดสอบมีด้วยกันทั้งหมด 6 ตัวด้วยกันมีรายชื่อดังต่อไปนี้ครับ
Browser ที่ใช้
  • IE11 Desktop Mode v11.0.9600.17207 (Update versions: 11.0.10 KB2962872)
  • IE11 Modern (Metro) Mode
  • Firefox 31.0
  • Safari 5.1.7
  • Chrome 36.0.1985.125 m
  • Chrome 37.0.2062.68 beta-m (64-bit)
การทดสอบจัดทำขึ้นบนเครื่อง Dell XPS 15 (9530) Late 2013 ที่ใช้หน่วยประมวลผล Intel Core i7-4702MQ ครับ แน่นอนว่าสเปคต่างๆของอุปกรณ์ที่ใช้นั้นย่อมทำให้เกิดความแตกต่างในเวลาการใช้งานจริง ดังนั้นผลการทดสอบบนเครื่องของ Anandtech นี้อาจจะไม่เกิดขึ้นกับเครื่องของท่านก็ได้ แต่ก็พอจะเป็นแนวทางได้ว่า browser ใดที่จะสามารถใช้งานได้ยาวนานมากที่สุด(อัตราการบริโภคพลังงานน้อยที่สุด) ผลการทดสอบเป็นอย่างไรนั้นไปชมภาพกันเลยครับ (Anandtech ทำการทดสอบด้วยการใช้โปรแกรมรันเปิดหน้าจอเว็บเพจหลายเว็บเพจ มีการเปิดปิด tab สลับการใช้งานไปมาเพื่อให้เหมือนกับพฤติกรรมการใช้งานจริงครับ)
จากผลการทดสอบนั้นจะเห็นได้ว่า Chrome 36 สามารถใช้งานได้ยาวนานมากที่สุด ตามมาด้วย Modern IE 11(Metro), Desktop IE 11, Firefox 31 และ Chrome 37 Beta ตามลำดับครับ ทั้งนี้สิ่งหนึ่งที่ทางผู้ทดสอบ ได้กล่าวไว้ก็คือ Chrome 36 ไม่สามารถที่จะแสดงผลที่ความละเอียดระดับ 3200×1800 pixels ได้เหมือนกับ browser ทำให้ต้องกลับไปทดสอบบนความละเอียดที่ 1600×900 pixels ครับ ซึ่งนี่เองที่เป็นผลให้ Chrome 36 นั้นมีเวลาในการใช้งานมากกว่า browser อื่นๆ (การรันโปรแกรมที่ความละเอียดไม่เท่ากันมีผลทำให้ CPU และ GPU ทำงานที่ความเร็วแตกต่างกัน) ดังนั้นหากดูที่ผลการทดสอบจริงๆ แล้วพบว่า Modern IE 11 จะสามารถใช้งานได้นานสุดครับ
ทั้งนี้ผลการทดสอบนี้ก็คงสามารถใช้เป็นแนวทางให้ทุกท่านไม่มากก็น้อยว่าจะเลือกใช้ browser ใดในการท่องเว็บแล้วจะสามารถใช้งานได้ยาวนานมากที่สุด แต่ต้องไม่ลืมว่าเวลาในการใช้งานจริงนั้นก็จะแตกต่างออกไปอีก หากท่านเปิดเพลงไปด้วยหรือทำกิจกรรมอื่นร่วมไปด้วย เวลาในการใช้งานก็จะน้อยลงเพราะ CPU และ GPU ต้องทำงานหนักมากขึ้นนั่นเองครับ
ที่มา : anandtech
ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ
.
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> hitech.sanook.com