วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

5 เคล็ดเขม็ดแขม่แบตเตอรี่แบบเร่งด่วนบน Android

5 เคล็ดลับอดออมแบตเตอรี่แบบคับขันบน Android
     เชื่อว่าหลายคนที่ใช้โทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน ต้องเคยตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่แบตเตอรี่เหละบือประจุอยู่ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ แถมยังต้องเปิดโทรศัพท์ทิ้งไว้เพื่อรอสายสำคัญ แล้วคุณยังลืมพกแบตเตอรี่สำรองติดตัวมาอีก จักทำอย่างไรล่ะทีนี้? เรามี 5 วิธีง่ายๆเพื่อยืดอายุการใช้งานแบบฉุกเฉินบนสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์มาฝากครับ
1. ปิดข้อตกลงณอินเตอร์เน็ต
     ตัวการสำคัญที่ทำให้สมาร์ทโฟนในปัจจุบันกินแบตฯอย่างมหาศาล อันเนื่องมาจากการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเครือข่าย 3G ตลอดเวลานั่นเอง
     ซึ่งถ้าคุณกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่แบตเตอรี่ใกล้หมด แล้วไม่เก่งหาที่ชาร์จแบตได้ ก็ให้ปิดการเชื่อมต่อ Data ไปเสียเลย วิธีนี้จักช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่เพื่อให้มีเวลาสแตนบายเพิ่มขึ้นอีกอื้อซ่า
     แต่ถ้าหากคุณจำเป็นต้องใช้แอพพลิเคชั่นพันธุ์ส่งข้อความอย่าง WeChat หรือไม่ไลน์ ที่ใช้ปริมาณ Data ไม่มากแล้วล่ะก็ คุณอาจเเลื่องลือกใช้การเชื่อมต่อแบบ 2G แทน ซึ่งกินไฟน้อยกว่าแบบ 3G มาก
2. ปรับความสว่างหน้าจอลง
     ความสว่างของหน้าจอเป็นอีกหนึ่งตัวการกินแบตเตอรี่บนสมาร์ทโฟน ยิ่งหน้าจอโทรศัพท์ใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่ การกินไฟก็เพิ่มขึ้นเท่านั้น
     หากตกอยู่ในกรณีฉุกเฉิน คุณสมรรถปรับความสว่างหน้าจอให้น้อยที่สุด เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานให้มากที่สุด แต่วิธีก็จักทำให้มองหน้าจอได้ลำบากขึ้นด้วยโดยเฉพาะเวลาอยู่ในที่กลางแจ้ง
3. ปิดการเชื่อมต่อ Wi-Fi กับ Bluetooth
     หลายคนมักเปิดการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือไม่ก็ Bluetooth ทิ้งเอาไว้ เพื่อความสะดวกเวลาเข้าไปยังสถานที่ที่เชื่อมต่ออยู่เป็นประจำ เช่น ในบ้าน, ที่ทำงาน หรือ บนรถ เป็นต้น
     แต่สมมติอยู่ในสถานที่ที่ไม่เคยเชื่อมต่อข้อตกลงณไวไฟ โทรศัพท์ก็จะพยายามสแกนเพื่อหาให้คำมั่นณอยู่ตลอดเวลา เป็นตัวการของการสูบแบตฯโดยไม่รู้ตัว ทางที่ดีถ้าหากต้องการยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ก็ให้ปิดการเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi และ Bluetooth ไปเลยจะดีที่สุด
4. Kill การทำงานทุกแอพพลิเคชั่น
     ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์นั้น รอบรู้เปิดแอพพลิเคชั่นหลายตัวไปพร้อมๆกันได้ โดยที่แต่ละแอพฯยังคงทำงานแบบ Background อยู่
     ซึ่งอาจทำให้เปร่ำลืองแบตเตอรี่เพราะว่าไม่จำเป็น เพราะ CPU ยังคงทำงานเพื่อประมวลผลแอพฯเหล่านั้นโดยไม่จำเป็น ทางที่ดีคุณควร Kill แอพพลิเคชั่นเหล่านั้นทิ้งไปก่อน ใช่ไหมหากไม่แน่ใจก็อาจใช้คำสั่ง 'Force Stop' โดยเข้าไปที่ 'Settings' แล้วตามด้วย 'Apps' จากนั้นจึงเโจษกหยุดการทำงานของแอพฯที่ต้องการได้เลย
5. ปิดฟังก์ชั่นที่ต้องใช้เซ็นเซอร์ตลอดเวลา
     สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์บางรุ่น อาจมีฟังก์ชั่นสัมผัสหน้าจอเพื่อเปิดเครื่อง ไม่ก็ ฟังก์ชั่นพรรค์ลากมือสร้างผ่านหน้าจอเพื่อเปิดดูนาฬิกาเป็นต้น
     ซึ่งฟังก์ชั่นเหล่านี้จะทำให้เซ็นเซอร์มีการทำงานตลอดเวลาแม้ในขณะปิดเครื่อง ส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ขณะนั้น ทางที่ดีควรปิดฟังก์ชั่นเหล่านี้ไปก่อนหากมีความจำเป็นต้องยืดอายุแบตเตอรี่ในยามฉุกเฉิน
     เพียงเท่านี้ คุณก็จะมีเวลาสแตนบายเพิ่มขึ้น ให้กับสายโทรศัพท์สำคัญๆที่คุณกำลังรออยู่ในเวลาฉุกเฉินได้แล้วล่ะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น